ใส่ใจรอยต่อท่อสักนิด เพื่อชีวิตไม่รั่ว
ปัญหาน้ำรั่วเป็นปัญหาคู่บ้าน ปรัชญาเต๋าท่านเปรียบเปรยไว้ว่า "น้ำเป็นสิ่งที่ทรงอานุภาพ มามากก็พัดพาทุกอย่างได้ทรงพลัง เมื่อมีน้อยก็แทรกซึมได้ทุกแห่งหน" โดยเฉพาะมันจะแทรกซึมทุกที่ที่เป็นจุดอ่อน ซึ่งก็คือตามข้อต่อท่อและสุขภัณฑ์นั่นเอง
สำหรับ ข้อต่อท่อ PVC หากข้อต่อนั้นทากาวประสานไม่ครบทั่วทุกด้าน เมื่อน้ำผ่านเข้าท่อ ก็จะรั่วออกมาตามรอยต่อทันที ซึ่งกรณีนี้มักพบเห็นได้ตั้งแต่หลังต่อท่อเสร็จใหม่ ๆ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าทากาวไว้ดี ไม่มีน้ำรั่วตั้งแต่แรก มักจะไม่มีปัญหาตลอดอายุการใช้งาน ยกเว้นท่อแตกจากการกระแทก หรือไม่ก็กาวหรือท่อทนแรงดันน้ำไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดจากแรงดันน้ำในท่อมากเกินไป ส่วนใหญ่ถ้าจะมีปัญหาน้ำรั่วหลังจากต่อท่อเสร็จไปสักพัก ก็เพราะตอนแรกไม่ได้ตรวจสอบให้ดี หรือน้ำรั่วน้อยมากจนไม่ทันสังเกตตอนต้น ในกรณีที่มีรอยรั่วตามข้อต่อท่อ PVC แบบนี้ ต้องตัดและเปลี่ยนข้อต่อใหม่อย่างเดียว (ซึ่งมักจะทำให้มีข้อต่อมากขึ้นไปอีก เพราะรอยตัดท่อ PVC แต่ละที่ต้องเชื่อมกันด้วยข้อต่อเท่านั้น) ในขณะที่การใช้วัสดุอุดมักไม่ได้ผลยั่งยืน
ส่วนรอยต่อที่เป็นจุดอ่อนอีกจุดคือ รอยต่อท่อกับสุขภัณฑ์ประเภทก๊อกน้ำ สายน้ำดี (ท่อพลาสติกที่ยืดหยุ่นได้ซึ่งต่อจากท่อ PVC แข็งไปสู่สุขภัณฑ์) เพราะว่าท่อและก๊อกน้ำ มักมีอายุการใช้งานสั้นมากกว่าท่อ PVC เมื่อเสียหายก็ต้องเปลี่ยน ต้องซ่อมแซม ซึ่งก๊อกน้ำและสายน้ำดีเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนได้ไม่ยากเลย ฉะนั้นถ้าหากอุปกรณ์พวกนี้เสียหายก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้ หากช่างประจำบ้านอย่างเรา ๆ เป็นคนเปลี่ยนเอง ก็ต้องใส่ใจรอยต่อระหว่างอุปกรณ์และท่อน้ำให้มาก
ปรัชญาเต๋าเช่นกันที่บอกว่า “จงใช้อ่อนหยุ่นพิชิตแข็งกร้าว” ซึ่งอุปกรณ์รอยต่อพวกนี้มักแข็งกร้าวเข้าใส่กัน ทั้งท่อ PVC ประเก็นท่อน้ำดี หรือก๊อกน้ำซึ่งเป็นทองเหลือง วัสดุแข็งกับแข็งมาเจอกันโดยไม่มีกาวเชื่อมนั้นน้ำย่อมรั่ว รอยต่อจึงต้องมีวัสดุที่อ่อนหยุ่นไว้ป้องกันน้ำรั่ว โดยทั่วไปมีวัสดุยืดหยุ่นอยู่สองชนิดที่ใช้กัน
อย่างแรกก็คือ แหวนยาง แหวนยางที่ว่าส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นทรงโดนัทแบน หรือไม่ก็เป็นแหวนกลม (ภาษาช่างเรียก O Ring) มีหน้าที่ทำให้รอยประกบระหว่างของแข็งสองชิ้นแนบสนิท บ่อยครั้งที่น้ำรั่วออกจากรอยต่อพวกนี้เพราะแหวนยางวางไม่ได้ระนาบ แหวนยางพับ เบี้ยว ถ้าเป็น O Ring จะสวมอยู่กับท่อซึ่งถูกบากเป็นร่องรอบท่อให้ O Ring รัดได้พอดี ฉะนั้นหากพบน้ำรั่วตามรอยต่อ ลองตรวจสอบดูว่าแหวนยางพวกนี้ติดตั้งได้พอดีหรือไม่ ถ้าขันแน่นได้ระนาบตรงแล้วน้ำยังรั่วซึม ให้ลองหมุนออกมาแล้วปรับแหวนยางใหม่ ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานมานานแล้วมีน้ำรั่วซึมตรงรอยต่อ ก็ตรวจสอบดูว่าแหวนยางฉีกขาด หรือแข็ง ซึ่งแปลว่าแหวนยางหมดอายุการใช้งานไปแล้วหรือไม่ ซึ่งถ้าใช่ ซื้อแหวนยางมาเปลี่ยนก็เพียงพอ
วัสดุยืดหยุ่นอย่างที่สองคือ เทปพันเกลียวท่อน้ำ เป็นเทปบางสีขาว มีความยืดหยุ่นสูง เอาไว้พันข้อต่อเกลียว สำหรับรอยต่ออุปกรณ์ที่เป็นเกลียวหมุน และไม่ได้ใช้แหวนยาง ต้องใช้เทปพันก่อน โดยให้พันไว้หลาย ๆ รอบจนหนากว่าเบ้าเกลียวที่จะหมุนเข้าไป “เล็กน้อย” เมื่อหมุนเกลียวเข้าไปแล้ว ตัวเนื้อเทปจะอัดเข้ากับเกลียวจนกันน้ำได้ หากพันหนามากตัวอุปกรณ์อาจจะหมุนเกลียวได้ไม่สุดรอบ แต่ก็กันน้ำได้เช่นกัน แต่ถ้าหนามากเกินไปมันจะหมุนไม่เข้าเอา (อย่าฝืน เดี๋ยวข้อต่อแตกหละ ยุ่งกว่าเดิม) ข้อระวังก็คือ เวลาพันเทปชนิดนี้ควรพันให้แผ่ตึง และให้พันสวนทางกับทิศทางการหมุนเกลียวเข้าหากัน (เรารู้ว่าบอกแบบนี้แล้วมันเข้าใจยาก เอาเป็นว่าหันด้านเกลียวเข้าหาตัวแล้วหมุนเทปพันตามเข็มนาฬิกา) เพื่อที่ตอนหมุนเกลียวเข้าหากัน เทปจะไม่คลายตัวออกมา
อีกข้อที่ต้องระวังก็คือ รอยต่อที่ใช้แหวนยางประกบ ไม่ควรใช้ร่วมกับเทปพันเกลียวร่วมไปด้วย เพราะรอยต่อที่ใช้แหวนยางเน้นให้การประกบระหว่างแหวน ท่อ และอุปกรณ์แนบแน่นกันมากที่สุด หากใช้เทปพันเกลียวพันไปด้วย อาจจะทำให้ขันเกลียวได้ไม่สุด ยิ่งพันเยอะแหวนยางจะยิ่งแนบไม่แนบสนิท ยิ่งรั่วง่าย หรือถ้าฝืนเกินไป ข้อต่อประเภทนี้ (ที่มักจะบอบบาง) จะแตกชำรุดได้
จากใจ
ZmyHome
ฝากแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
สำหรับ ข้อต่อท่อ PVC หากข้อต่อนั้นทากาวประสานไม่ครบทั่วทุกด้าน เมื่อน้ำผ่านเข้าท่อ ก็จะรั่วออกมาตามรอยต่อทันที ซึ่งกรณีนี้มักพบเห็นได้ตั้งแต่หลังต่อท่อเสร็จใหม่ ๆ พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าทากาวไว้ดี ไม่มีน้ำรั่วตั้งแต่แรก มักจะไม่มีปัญหาตลอดอายุการใช้งาน ยกเว้นท่อแตกจากการกระแทก หรือไม่ก็กาวหรือท่อทนแรงดันน้ำไม่ได้ ซึ่งอาจเกิดจากแรงดันน้ำในท่อมากเกินไป ส่วนใหญ่ถ้าจะมีปัญหาน้ำรั่วหลังจากต่อท่อเสร็จไปสักพัก ก็เพราะตอนแรกไม่ได้ตรวจสอบให้ดี หรือน้ำรั่วน้อยมากจนไม่ทันสังเกตตอนต้น ในกรณีที่มีรอยรั่วตามข้อต่อท่อ PVC แบบนี้ ต้องตัดและเปลี่ยนข้อต่อใหม่อย่างเดียว (ซึ่งมักจะทำให้มีข้อต่อมากขึ้นไปอีก เพราะรอยตัดท่อ PVC แต่ละที่ต้องเชื่อมกันด้วยข้อต่อเท่านั้น) ในขณะที่การใช้วัสดุอุดมักไม่ได้ผลยั่งยืน
ส่วนรอยต่อที่เป็นจุดอ่อนอีกจุดคือ รอยต่อท่อกับสุขภัณฑ์ประเภทก๊อกน้ำ สายน้ำดี (ท่อพลาสติกที่ยืดหยุ่นได้ซึ่งต่อจากท่อ PVC แข็งไปสู่สุขภัณฑ์) เพราะว่าท่อและก๊อกน้ำ มักมีอายุการใช้งานสั้นมากกว่าท่อ PVC เมื่อเสียหายก็ต้องเปลี่ยน ต้องซ่อมแซม ซึ่งก๊อกน้ำและสายน้ำดีเป็นอุปกรณ์ที่เปลี่ยนได้ไม่ยากเลย ฉะนั้นถ้าหากอุปกรณ์พวกนี้เสียหายก็สามารถซื้อมาเปลี่ยนเองได้ หากช่างประจำบ้านอย่างเรา ๆ เป็นคนเปลี่ยนเอง ก็ต้องใส่ใจรอยต่อระหว่างอุปกรณ์และท่อน้ำให้มาก
ปรัชญาเต๋าเช่นกันที่บอกว่า “จงใช้อ่อนหยุ่นพิชิตแข็งกร้าว” ซึ่งอุปกรณ์รอยต่อพวกนี้มักแข็งกร้าวเข้าใส่กัน ทั้งท่อ PVC ประเก็นท่อน้ำดี หรือก๊อกน้ำซึ่งเป็นทองเหลือง วัสดุแข็งกับแข็งมาเจอกันโดยไม่มีกาวเชื่อมนั้นน้ำย่อมรั่ว รอยต่อจึงต้องมีวัสดุที่อ่อนหยุ่นไว้ป้องกันน้ำรั่ว โดยทั่วไปมีวัสดุยืดหยุ่นอยู่สองชนิดที่ใช้กัน
อย่างแรกก็คือ แหวนยาง แหวนยางที่ว่าส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นทรงโดนัทแบน หรือไม่ก็เป็นแหวนกลม (ภาษาช่างเรียก O Ring) มีหน้าที่ทำให้รอยประกบระหว่างของแข็งสองชิ้นแนบสนิท บ่อยครั้งที่น้ำรั่วออกจากรอยต่อพวกนี้เพราะแหวนยางวางไม่ได้ระนาบ แหวนยางพับ เบี้ยว ถ้าเป็น O Ring จะสวมอยู่กับท่อซึ่งถูกบากเป็นร่องรอบท่อให้ O Ring รัดได้พอดี ฉะนั้นหากพบน้ำรั่วตามรอยต่อ ลองตรวจสอบดูว่าแหวนยางพวกนี้ติดตั้งได้พอดีหรือไม่ ถ้าขันแน่นได้ระนาบตรงแล้วน้ำยังรั่วซึม ให้ลองหมุนออกมาแล้วปรับแหวนยางใหม่ ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานมานานแล้วมีน้ำรั่วซึมตรงรอยต่อ ก็ตรวจสอบดูว่าแหวนยางฉีกขาด หรือแข็ง ซึ่งแปลว่าแหวนยางหมดอายุการใช้งานไปแล้วหรือไม่ ซึ่งถ้าใช่ ซื้อแหวนยางมาเปลี่ยนก็เพียงพอ
วัสดุยืดหยุ่นอย่างที่สองคือ เทปพันเกลียวท่อน้ำ เป็นเทปบางสีขาว มีความยืดหยุ่นสูง เอาไว้พันข้อต่อเกลียว สำหรับรอยต่ออุปกรณ์ที่เป็นเกลียวหมุน และไม่ได้ใช้แหวนยาง ต้องใช้เทปพันก่อน โดยให้พันไว้หลาย ๆ รอบจนหนากว่าเบ้าเกลียวที่จะหมุนเข้าไป “เล็กน้อย” เมื่อหมุนเกลียวเข้าไปแล้ว ตัวเนื้อเทปจะอัดเข้ากับเกลียวจนกันน้ำได้ หากพันหนามากตัวอุปกรณ์อาจจะหมุนเกลียวได้ไม่สุดรอบ แต่ก็กันน้ำได้เช่นกัน แต่ถ้าหนามากเกินไปมันจะหมุนไม่เข้าเอา (อย่าฝืน เดี๋ยวข้อต่อแตกหละ ยุ่งกว่าเดิม) ข้อระวังก็คือ เวลาพันเทปชนิดนี้ควรพันให้แผ่ตึง และให้พันสวนทางกับทิศทางการหมุนเกลียวเข้าหากัน (เรารู้ว่าบอกแบบนี้แล้วมันเข้าใจยาก เอาเป็นว่าหันด้านเกลียวเข้าหาตัวแล้วหมุนเทปพันตามเข็มนาฬิกา) เพื่อที่ตอนหมุนเกลียวเข้าหากัน เทปจะไม่คลายตัวออกมา
อีกข้อที่ต้องระวังก็คือ รอยต่อที่ใช้แหวนยางประกบ ไม่ควรใช้ร่วมกับเทปพันเกลียวร่วมไปด้วย เพราะรอยต่อที่ใช้แหวนยางเน้นให้การประกบระหว่างแหวน ท่อ และอุปกรณ์แนบแน่นกันมากที่สุด หากใช้เทปพันเกลียวพันไปด้วย อาจจะทำให้ขันเกลียวได้ไม่สุด ยิ่งพันเยอะแหวนยางจะยิ่งแนบไม่แนบสนิท ยิ่งรั่วง่าย หรือถ้าฝืนเกินไป ข้อต่อประเภทนี้ (ที่มักจะบอบบาง) จะแตกชำรุดได้
จากใจ
ZmyHome
ฝากแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
