ว่าด้วยช่อง Service บนฝ้าเพดาน ที่ทุกบ้านควรจะมี
ภายในบ้านที่เราอยู่อาศัยกันทุกวัน ล้วนเต็มไปด้วยงานระบบน้ำระบบไฟยุ่บยั่บที่ซ่อนอยู่ภายใต้พื้น ผนัง และฝ้าเพดานที่เรียบง่ายรอบตัว และตามธรรมชาติของสรรพสิ่ง ที่อยู่อาศัยของเรานั้นแม้เห็นมันแข็งแรงมั่นคง ก็ใช่จะอยู่ยงคงกระพัน โดยเฉพาะบางส่วนของบ้านนั้น อาจจะมีปัญหา ขัดข้อง เสื่อมโทรมไปก่อนส่วนอื่นๆ
บนฝ้าเพดานเราก็มีส่วนที่มักเสื่อมโทรมหรือเกิดปัญหาไปก่อนส่วนอื่นเช่นกัน เช่น ท่อน้ำและสายไฟ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ปกติแล้วสายไฟและท่อน้ำประปานั้น มักเดินเข้าในบ้านแล้วเดินขึ้นไปเริ่มต้นที่บริเวณเหนือฝ้าเพดาน ก่อนจะเดินสายแจกจ่ายให้กับจุดต่าง ๆ ไป นอกจากนั้นในกรณีบ้านหลายชั้น บนฝ้าเพดานยังมีระบบท่อระบายน้ำเสียชั้นบน ซึ่งสำหรับคอนโดมิเนียม ก็จะเป็นท่อระบายน้ำเสียจากเพื่อนบ้านบนห้องเรา หรือหากเป็นบ้านชั้นเดียว บ้านหรือคอนโดชั้นบนสุด ก็จะมีท่อน้ำฝนที่อาจเดินระบบอยู่บนฝ้าเพดาน
หากท่อน้ำรั่ว แตก น้ำรั่วจากกระเบื้องมุงหลังคา พื้นดาดฟ้า ต้องการเดินสายไฟเพิ่มเติม สายไฟเปื่อยเสียหาย มีหนูเข้าไปบนฝ้าเพดานกัดสายไฟขาด หรือแม้แต่หนูขึ้นไปตายบนฝ้าเพดาน โดยทั่วไปเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ เราจะต้องเจาะแผ่นฝ้าเพดานขึ้นไปแก้ไขในจุดที่เป็นปัญหา แต่ถ้าต้องคอยเดาว่ารอยน้ำรั่ว หรือสายไฟที่มีปัญหาน่าจะมาจากจุดไหน แล้วค่อยสุ่มเจาะฝ้าขึ้นไปคงไม่ดีนัก เพราะถ้าเดาผิดก็จะเพิ่มความยุ่งยากโดยใช่เหตุ
ปัญหาทั้งหมดนี้จะตรวจสอบและซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อฝ้าเพดานของเรามีช่อง Service
ช่อง Service ก็คือช่องที่เจาะไว้บนฝ้าที่ฉาบเรียบ แล้วนำแผ่นฝ้าอีกแผ่นมาวางปิดเอาไว้ โดยทั่วไปขอบของช่อง Service จะเป็นขอบโลหะที่ประกอบรอบช่อง แล้วมีบ่ารับแผ่นฝ้าชิ้นที่ยกเปิดออกได้ (คล้ายๆ ระบบโครงฝ้า T Bar) ช่อง Service จะมีขนาดเพียงคนโผล่ตัวขึ้นไปบนฝ้าได้ ซึ่งก็จะมีทั้งขนาดประมาณ 35-60 ซม. จะเจาะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น แต่ยิ่งใหญ่จะยิ่งเห็นเป็นสิ่งรกตา และแผ่นฝ้าที่คอยเปิดปิดจะหนักมากขึ้น สำหรับบ้านทั่วไปไม่นิยมเจาะกันให้ใหญ่เกินไป พอให้คนเอาตัวมุดขึ้นไปได้ก็พอ
ตำแหน่งที่จะเจาะช่อง Service ควรเป็นตำแหน่งที่เข้าถึงแหล่งปัญหาได้ง่าย เช่น ถ้าเป็นภายในห้องน้ำ ก็น่าจะเจาะในบริเวณที่เมื่อขึ้นไปจะมองเห็นหรือเอื้อมถึงท่อน้ำทิ้งทั้งหลาย หรือจุดที่เจาะไว้จะทำให้ช่างเอื้อมมือเข้าถึงจุดที่แก้ปัญหาได้ง่าย เช่น ช่องท่อน้ำ ช่องท่อไฟ เป็นต้น และถ้าห้องน้ำมีช่อง Service แล้ว หากจะมีวาล์วเปิดปิดน้ำรวมของห้องด้วย ก็แนะนำว่าให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไปเลย
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถเจาะช่อง Service ไว้ที่ฝ้าทุกจุดเพื่อกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นบ้านคงพรุน (ซึ่งถ้าต้องการเช่นนั้นแนะนำให้ทำฝ้า T Bar ไปเลย) แต่ช่อง Service ก็ยังมีประโยชน์ในเบื้องต้นได้แน่ เช่น หากเกิดปัญหาหลังคารั่ว ก็ยังสามารถใช้ช่อง Service ที่ใกล้ที่สุดเพื่อขึ้นไปตรวจดูก่อนว่าปัญหาเกิดที่จุดใด (บางกรณีรอยรั่วอาจจะอยู่จากจุดที่ไกลรอยน้ำหยด เพราะน้ำไหลตามแนวหลังคาหรือแนวท่อมาก่อนจะหยดลงบนฝ้า)
ที่จริงตามท้องตลาดก็มีช่อง Service ฝ้าสำเร็จรูปขาย ซึ่งหลายแบบทำมาได้ดี สามารถซ่อนขอบโลหะ หรือไม่ก็ทำขอบโลหะเป็นสีขาวกลืนกับฝ้าฉาบเรียบไปได้ ซึ่งทำให้ได้ทั้งความสวยงามพอตัว และยังสามารถช่วยอำนวยความสะดวกเวลาเกิดปัญหา
ซื้อบ้าน สร้างบ้าน ตรวจรับบ้าน อย่าลืมถามถึงช่อง Service บนฝ้าเพดานกันนะครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
อ่าน Blog เพิ่มเติม เรื่องฝ้า ๆ :-
บนฝ้าเพดานเราก็มีส่วนที่มักเสื่อมโทรมหรือเกิดปัญหาไปก่อนส่วนอื่นเช่นกัน เช่น ท่อน้ำและสายไฟ ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ปกติแล้วสายไฟและท่อน้ำประปานั้น มักเดินเข้าในบ้านแล้วเดินขึ้นไปเริ่มต้นที่บริเวณเหนือฝ้าเพดาน ก่อนจะเดินสายแจกจ่ายให้กับจุดต่าง ๆ ไป นอกจากนั้นในกรณีบ้านหลายชั้น บนฝ้าเพดานยังมีระบบท่อระบายน้ำเสียชั้นบน ซึ่งสำหรับคอนโดมิเนียม ก็จะเป็นท่อระบายน้ำเสียจากเพื่อนบ้านบนห้องเรา หรือหากเป็นบ้านชั้นเดียว บ้านหรือคอนโดชั้นบนสุด ก็จะมีท่อน้ำฝนที่อาจเดินระบบอยู่บนฝ้าเพดาน
หากท่อน้ำรั่ว แตก น้ำรั่วจากกระเบื้องมุงหลังคา พื้นดาดฟ้า ต้องการเดินสายไฟเพิ่มเติม สายไฟเปื่อยเสียหาย มีหนูเข้าไปบนฝ้าเพดานกัดสายไฟขาด หรือแม้แต่หนูขึ้นไปตายบนฝ้าเพดาน โดยทั่วไปเมื่อเกิดปัญหาเหล่านี้ เราจะต้องเจาะแผ่นฝ้าเพดานขึ้นไปแก้ไขในจุดที่เป็นปัญหา แต่ถ้าต้องคอยเดาว่ารอยน้ำรั่ว หรือสายไฟที่มีปัญหาน่าจะมาจากจุดไหน แล้วค่อยสุ่มเจาะฝ้าขึ้นไปคงไม่ดีนัก เพราะถ้าเดาผิดก็จะเพิ่มความยุ่งยากโดยใช่เหตุ
ปัญหาทั้งหมดนี้จะตรวจสอบและซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นมาก เมื่อฝ้าเพดานของเรามีช่อง Service
ช่อง Service ก็คือช่องที่เจาะไว้บนฝ้าที่ฉาบเรียบ แล้วนำแผ่นฝ้าอีกแผ่นมาวางปิดเอาไว้ โดยทั่วไปขอบของช่อง Service จะเป็นขอบโลหะที่ประกอบรอบช่อง แล้วมีบ่ารับแผ่นฝ้าชิ้นที่ยกเปิดออกได้ (คล้ายๆ ระบบโครงฝ้า T Bar) ช่อง Service จะมีขนาดเพียงคนโผล่ตัวขึ้นไปบนฝ้าได้ ซึ่งก็จะมีทั้งขนาดประมาณ 35-60 ซม. จะเจาะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับความจำเป็น แต่ยิ่งใหญ่จะยิ่งเห็นเป็นสิ่งรกตา และแผ่นฝ้าที่คอยเปิดปิดจะหนักมากขึ้น สำหรับบ้านทั่วไปไม่นิยมเจาะกันให้ใหญ่เกินไป พอให้คนเอาตัวมุดขึ้นไปได้ก็พอ
ตำแหน่งที่จะเจาะช่อง Service ควรเป็นตำแหน่งที่เข้าถึงแหล่งปัญหาได้ง่าย เช่น ถ้าเป็นภายในห้องน้ำ ก็น่าจะเจาะในบริเวณที่เมื่อขึ้นไปจะมองเห็นหรือเอื้อมถึงท่อน้ำทิ้งทั้งหลาย หรือจุดที่เจาะไว้จะทำให้ช่างเอื้อมมือเข้าถึงจุดที่แก้ปัญหาได้ง่าย เช่น ช่องท่อน้ำ ช่องท่อไฟ เป็นต้น และถ้าห้องน้ำมีช่อง Service แล้ว หากจะมีวาล์วเปิดปิดน้ำรวมของห้องด้วย ก็แนะนำว่าให้อยู่ในตำแหน่งเดียวกันไปเลย
แต่ก็ต้องยอมรับว่าเราไม่สามารถเจาะช่อง Service ไว้ที่ฝ้าทุกจุดเพื่อกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้ทุกอย่าง ไม่เช่นนั้นบ้านคงพรุน (ซึ่งถ้าต้องการเช่นนั้นแนะนำให้ทำฝ้า T Bar ไปเลย) แต่ช่อง Service ก็ยังมีประโยชน์ในเบื้องต้นได้แน่ เช่น หากเกิดปัญหาหลังคารั่ว ก็ยังสามารถใช้ช่อง Service ที่ใกล้ที่สุดเพื่อขึ้นไปตรวจดูก่อนว่าปัญหาเกิดที่จุดใด (บางกรณีรอยรั่วอาจจะอยู่จากจุดที่ไกลรอยน้ำหยด เพราะน้ำไหลตามแนวหลังคาหรือแนวท่อมาก่อนจะหยดลงบนฝ้า)
ที่จริงตามท้องตลาดก็มีช่อง Service ฝ้าสำเร็จรูปขาย ซึ่งหลายแบบทำมาได้ดี สามารถซ่อนขอบโลหะ หรือไม่ก็ทำขอบโลหะเป็นสีขาวกลืนกับฝ้าฉาบเรียบไปได้ ซึ่งทำให้ได้ทั้งความสวยงามพอตัว และยังสามารถช่วยอำนวยความสะดวกเวลาเกิดปัญหา
ซื้อบ้าน สร้างบ้าน ตรวจรับบ้าน อย่าลืมถามถึงช่อง Service บนฝ้าเพดานกันนะครับ
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
อ่าน Blog เพิ่มเติม เรื่องฝ้า ๆ :-
