ถ้าห้องไม่ได้ฉาก จะวางแนวกระเบื้องอย่างไร?

กระเบื้อง เป็นวัสดุปูพื้นบ้านยอดนิยมชนิดหนึ่ง เนื่องด้วยมีความทนทาน มีลวดลายให้เลือกหลากหลายมากที่สุดในบรรดาวัสดุพื้นทั้งหมด ทุกวันนี้ต้องการกระเบื้องอะไรก็มีให้เลือกใช้ทั้งสิ้น ไม่ว่ากระเบื้องลายไม้ กระเบื้องลายหิน กระเบื้องลายสนิมเหล็ก หรือแม้แต่กระเบื้องลายหนัง ลายกรวดลายหญ้าก็ยังมีให้เลือก

แต่กระเบื้องก็มีลายซ้อนลายคล้าย ๆ ฝันซ้อนฝันในหนังเรื่อง inception นั่นก็คือ นอกจากลวดลายในแผ่นกระเบื้องเองแล้ว ยังมีรอยต่อระหว่างแผ่นกระเบื้องเป็นลายอีกต่างหาก การแนววางรอยต่อระหว่างแผ่นจึงเป็นประเด็นให้คิดอีก 1 ขั้น

สิ่งแรกที่จะต้องเริ่มคิดในกรณีการปูกระเบื้องลายเดียวกันทั้งห้องก็คือ จะเริ่มปูกระเบื้องเต็มแผ่นแผ่นแรกตรงไหนดี? ซึ่งถ้ากระเบื้องลงตัวกับขนาดกว้างยาวของห้องเป๊ะ ๆ เรื่องนี้ย่อมจะไม่เป็นปัญหา ก็เริ่มปูกระเบื้องที่มุมห้องไหนตรงไหน แล้วไล่ไปจนสุดทาง ก็จะได้ห้องที่ปูกระเบื้องเต็มทุกแผ่นเรียบร้อยสมบูรณ์ เป็นสถานการณ์ที่ลงตัว ประหยัดกระเบื้อง และไม่ต้องเสี่ยงกับกระเบื้องเสียหายเพราะต้องถูกตัดเศษ แต่ขนาดห้องและกระเบื้องมักไม่ลงตัวกัน จึงทำให้ต้องตัดกระเบื้องที่ติดกับขอบผนังบ้างอะไรบ้าง

หลักการเบื้องต้นของการวางแนวกระเบื้องให้สวยงามคือ เมื่อปูเสร็จแล้วให้เห็นกระเบื้องเต็มแผ่นให้มากที่สุด และให้มองเห็นแผ่นที่เหลือเป็นเศษเล็กเศษน้อยให้น้อยที่สุด และแนวกระเบื้องได้สมดุลเมื่อดูห้องในภาพรวม ห้องทั่วไปจึงมักเลือกวางแนวปูกระเบื้องแผ่นแรกไว้ที่กึ่งกลางห้องแล้วค่อย ๆ ปูไล่ออกด้านข้าง ซึ่งหากขนาดห้องไม่ลงตัวกับแผ่นกระเบื้อง เหลือเป็นเศษเล็ก ๆ ที่ขอบห้องดูน่ารำคาญตา ก็สามารถใช้แนวรอยต่อของกระเบื้องเป็นเส้นแนวกลางห้องแทน ซึ่งมักจะทำให้เศษที่เหลือด้านข้างมีขนาดใหญ่ขึ้น

ในกรณีห้องสี่เหลี่ยม ระหว่างการใช้กระเบื้องเป็นแนวกลางห้อง และใช้แนวรอยต่อกระเบื้องเป็นแนวกลางห้อง จะต้องมีแบบใดแบบหนึ่งที่กระเบื้องริมห้องเหลือมากกว่าครึ่งแผ่นเสมอ และอีกแบบจะเหลือน้อยกว่าครึ่งแผ่น

สำหรับด้านลึก ถ้าไม่นับการวางแนวกระเบื้องหรือแนวรอยต่อกระเบื้องไว้กลางห้อง ก็ให้พิจารณาวางกระเบื้องเต็มแผ่นไว้ที่ด้านในห้องที่สายตาเรามองไปเห็น แล้วไล่กระเบื้องมาด้านหน้าห้อง เพราะเมื่อเราเปิดห้องเข้ามา เรามักไม่สังเกตกระเบื้องที่อยู่ใกล้ตัว แต่สายตาจะมองไปที่ด้านในห้องมากกว่า

ในกรณีที่ห้องนั้นมีเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟา ตู้ทีวี หรือเคาน์เตอร์ อยู่ที่ขอบห้องด้านใดด้านหนึ่ง ก็อาจเลือกด้านที่โล่งเห็นพื้นเป็นด้านปูกระเบื้องเต็มแผ่น แล้วด้านที่มีเฟอร์นิเจอร์เป็นด้านเศษ เพราะเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ไปแล้ว เศษกระเบื้องก็จะถูกซ่อนไว้ใต้เฟอร์นิเจอร์อยู่ดี

แต่ยังมีอีกกรณีเจ้าปัญหา ในกรณีที่ขอบห้องที่ก่อสร้างขึ้นมาเบี้ยวโย้เป็นสี่เหลี่ยมคางหมู ผนังฝั่งที่ไม่ได้ฉาก จะสังเกตเห็นได้ง่ายว่ากระเบื้องแผ่นที่ติดผนังฝั่งนั้นไม่ได้ฉากเช่นกัน แล้วจะวางแนวกระเบื้องอย่างไรดี (ถ้าหากเบี้ยวไม่มากนัก หรือมีเฟอร์นิเจอร์บังกระเบื้องด้านที่เบี้ยวก็ถือว่าโชคดีไป)

ปัญหานี้อาจจะแก้ได้ด้วยการวางแนวกระเบื้องเฉียง 45 องศากับตัวห้องไปเลย ซึ่งการวางแนวกระเบื้องแบบนี้จะทำให้สายตาที่มองผ่าน ๆ จับแนวความเบี้ยวของห้องไม่ออก แน่นอนว่าการปูกระเบื้องแบบเฉียงจะต้องเผื่อกระเบื้องมากกว่าปกติเล็กน้อย เพราะจะมีหลายแผ่นที่ถูกตัดทิ้ง และจะทำให้ห้องดูพิเศษแปลกตาขึ้นกว่าปกติ (ชอบไม่ชอบ แล้วแต่คน)

ต้องขยายความด้วยว่า คำแนะนำข้างต้นไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาตายตัว แต่เป็นทางเลือกหนึ่งซึ่งต้องชั่งใจระหว่างความสวยงาม และความลงตัว แต่สิ่งที่ยืนยันได้ในที่นี้ก็คือ การวางแนวกระเบื้องเป็นสิ่งที่ต้องคิดและวางแผนไว้ตั้งแต่ต้นเสมอ และเป็นหนึ่งในคำถามที่ต้องตอบให้ได้ก่อนการปูพื้นกระเบื้องทุกครั้ง

อ่านเพิ่มเรื่องกระเบื้อง ๆ คลิก >>

จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ