หน้าหนาวนอกจากจะทำให้ผิวเราแห้งแตก ยังทำร้ายพื้นกระเบื้องบ้านเราให้แตกร้าวได้ด้วย
อาการผิวแตกเนื่องจากอากาศแห้งในหน้าหนาวเป็นเรื่องที่เราสัมผัสได้กันทั่วไป แต่รู้หรือไม่พื้นกระเบื้องปูพื้นตามบ้านก็อ่อนไหวต่อหน้าหนาวเช่นเดียวกัน
คือมันจะแตก เกิดแนวโก่ง และระเบิดออกมาได้ (คำว่าระเบิดในที่ที่หมายถึงโก่งตัวแตกเสียงดัง แต่ไม่ถึงขั้นไฟแลบอะไรเบอร์นั้น)
อาการนี้เกิดจากอุณหภูมิที่ลดลงและความแห้งที่เพิ่มขึ้นทำให้วัสดุต่าง ๆ เกิดการหดตัว ซึ่งคอนกรีตหรือกระเบื้องเซรามิคที่เราเห็นว่ามันแข็งๆ ก็หดตัวด้วยเช่นกัน และเนื่องจากวัสดุที่ต่างชนิดจะมีปริมาณการดูดซึมน้ำและการยืดหดตัวต่างกัน เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนไป รอยต่อระหว่างวัสดุสองอย่างจึงเกิดการแยกตัว
การหดตัวของปูนที่ใช้ปูกระเบื้องและแผ่นกระเบื้องที่ไม่เท่ากัน ทำให้ตัวกระเบื้องหลุดร่อนจากผิวปูน และถ้าหากกระเบื้องมีความห่างของร่องระหว่างแผ่นน้อยเกินไป กระเบื้องที่มีอัตราการหัดตัวไม่มากจะถูกบีบบังคับให้โก่งตัวขึ้นมา
และหากบางส่วนของแผ่นกระเบื้องติดกับปูนแน่นเป็นพิเศษ ทำให้กระเบื้องไม่ได้หลุดมาทั้งแผ่น แต่เกิดแตกออกจากกันแทน
อาการกระเบื้องโก่ง แตก ระเบิดจากอุณหภูมิและความแห้งในหน้าหนาวมักเกิดเฉพาะกับกระเบื้องปูพื้น แต่ไม่เกิดกับกระเบื้องปูผนัง เพราะกรรมวิธีการปูกระเบื้องผนังจะใช้ปูนกาวเป็นตัวประสานกระเบื้องเข้ากับผนังปูน ปูนกาวถูกคิดค้นมาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นหนึบเหนียวของผิวปูนกับกระเบื้อง ผิวกระเบื้องปูผนังจึงปรับตัวได้ ไม่โก่งแตก แม้อุณหภูมิและความชื้นเปลี่ยนแปลง
ส่วนกรรมวิธีการปูกระเบื้องพื้นนั้นมีหลายทางเลือก กรรมวิธีการปูแบบซาลาเปา (ใช้ปูนโปะหลังกระเบื้องเป็นก้อนกลมๆ ซึ่งมักได้ปูนไม่เต็มแผ่นกระเบื้อง) หรือแบบปูนขี้หนู (ใช้ปูนคลุกหมาด ๆ เป็นก้อนๆคล้ายขี้หนูรองพื้นก่อนปู วิธีนี้ทำให้จัดแนวกระเบื้องง่าย) มีความเสี่ยงต่ออาการกระเบื้องหลุดหน้าหนาวทั้งสิ้น
พื้นที่ปูด้วยสองกรรมวิธีข้างต้น หากไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น ก็อาจจะเป็นเพราะเว้นร่องยาแนวได้ห่างพอสมควร หรืออุณหภูมิในห้องนั้นเย็นแห้งเป็นปกติ (ติดแอร์) หรือร้อนชื้นเป็นปกติ (อันหลังอาจจะหมายถึงบ้านท่านไม่มีหน้าหนาว – ล้อเล่นครับ หมายถึงบริเวณห้องน้ำเป็นต้น)
กรรมวิธีการปูกระเบื้องพื้นที่ดี จึงควรใช้ปูนรองกระเบื้องเต็มแผ่น แล้วให้ปูนกาวทาประสานอีกที อีกทั้งควรทำแนวเว้นร่องกระเบื้องได้ขนาดตามมาตรฐาน โอกาสที่กระเบื้องจะโก่ง แตก ระเบิดในหน้าหนาว ก็จะลดลงไปมาก
งานก่อสร้างต้องอาศัยความเรียบร้อยทั้งผิวหน้าที่โชว์ตัวและเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ สิ่งก่อสร้างเช่นบ้านของเราต้องทนรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกจากภาพภายนอกของผิวพื้นกระเบื้องที่ดูเรียบร้อยได้แนว สีสันลวดลายถูกใจ จึงยังต้องแฝงไว้ด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง ไม่ต่างกับสภาพผิวเราที่จะสวยได้ ต้องเกิดจากการดูแลทั้งภายนอกและภายในเช่นกัน
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : นิธิพันธ์ ZmyHome
บทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ พื้นปูกระเบื้อง:
- ถ้าห้องไม่ได้ฉาก จะวางแนวกระเบื้องอย่างไร?
- กระเบื้องตัดขอบ ปูได้แนบสนิทขนาดไหน?
- ยาแนวนั้นสำคัญไฉน?
คือมันจะแตก เกิดแนวโก่ง และระเบิดออกมาได้ (คำว่าระเบิดในที่ที่หมายถึงโก่งตัวแตกเสียงดัง แต่ไม่ถึงขั้นไฟแลบอะไรเบอร์นั้น)
อาการนี้เกิดจากอุณหภูมิที่ลดลงและความแห้งที่เพิ่มขึ้นทำให้วัสดุต่าง ๆ เกิดการหดตัว ซึ่งคอนกรีตหรือกระเบื้องเซรามิคที่เราเห็นว่ามันแข็งๆ ก็หดตัวด้วยเช่นกัน และเนื่องจากวัสดุที่ต่างชนิดจะมีปริมาณการดูดซึมน้ำและการยืดหดตัวต่างกัน เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนไป รอยต่อระหว่างวัสดุสองอย่างจึงเกิดการแยกตัว
การหดตัวของปูนที่ใช้ปูกระเบื้องและแผ่นกระเบื้องที่ไม่เท่ากัน ทำให้ตัวกระเบื้องหลุดร่อนจากผิวปูน และถ้าหากกระเบื้องมีความห่างของร่องระหว่างแผ่นน้อยเกินไป กระเบื้องที่มีอัตราการหัดตัวไม่มากจะถูกบีบบังคับให้โก่งตัวขึ้นมา
และหากบางส่วนของแผ่นกระเบื้องติดกับปูนแน่นเป็นพิเศษ ทำให้กระเบื้องไม่ได้หลุดมาทั้งแผ่น แต่เกิดแตกออกจากกันแทน
อาการกระเบื้องโก่ง แตก ระเบิดจากอุณหภูมิและความแห้งในหน้าหนาวมักเกิดเฉพาะกับกระเบื้องปูพื้น แต่ไม่เกิดกับกระเบื้องปูผนัง เพราะกรรมวิธีการปูกระเบื้องผนังจะใช้ปูนกาวเป็นตัวประสานกระเบื้องเข้ากับผนังปูน ปูนกาวถูกคิดค้นมาเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นหนึบเหนียวของผิวปูนกับกระเบื้อง ผิวกระเบื้องปูผนังจึงปรับตัวได้ ไม่โก่งแตก แม้อุณหภูมิและความชื้นเปลี่ยนแปลง
ส่วนกรรมวิธีการปูกระเบื้องพื้นนั้นมีหลายทางเลือก กรรมวิธีการปูแบบซาลาเปา (ใช้ปูนโปะหลังกระเบื้องเป็นก้อนกลมๆ ซึ่งมักได้ปูนไม่เต็มแผ่นกระเบื้อง) หรือแบบปูนขี้หนู (ใช้ปูนคลุกหมาด ๆ เป็นก้อนๆคล้ายขี้หนูรองพื้นก่อนปู วิธีนี้ทำให้จัดแนวกระเบื้องง่าย) มีความเสี่ยงต่ออาการกระเบื้องหลุดหน้าหนาวทั้งสิ้น
พื้นที่ปูด้วยสองกรรมวิธีข้างต้น หากไม่เกิดปัญหานี้ขึ้น ก็อาจจะเป็นเพราะเว้นร่องยาแนวได้ห่างพอสมควร หรืออุณหภูมิในห้องนั้นเย็นแห้งเป็นปกติ (ติดแอร์) หรือร้อนชื้นเป็นปกติ (อันหลังอาจจะหมายถึงบ้านท่านไม่มีหน้าหนาว – ล้อเล่นครับ หมายถึงบริเวณห้องน้ำเป็นต้น)
กรรมวิธีการปูกระเบื้องพื้นที่ดี จึงควรใช้ปูนรองกระเบื้องเต็มแผ่น แล้วให้ปูนกาวทาประสานอีกที อีกทั้งควรทำแนวเว้นร่องกระเบื้องได้ขนาดตามมาตรฐาน โอกาสที่กระเบื้องจะโก่ง แตก ระเบิดในหน้าหนาว ก็จะลดลงไปมาก
งานก่อสร้างต้องอาศัยความเรียบร้อยทั้งผิวหน้าที่โชว์ตัวและเบื้องหลังที่ซ่อนอยู่ สิ่งก่อสร้างเช่นบ้านของเราต้องทนรับกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องยาวนาน นอกจากภาพภายนอกของผิวพื้นกระเบื้องที่ดูเรียบร้อยได้แนว สีสันลวดลายถูกใจ จึงยังต้องแฝงไว้ด้วยกรรมวิธีที่ถูกต้อง ไม่ต่างกับสภาพผิวเราที่จะสวยได้ ต้องเกิดจากการดูแลทั้งภายนอกและภายในเช่นกัน
จากใจ
ZmyHome
ฝากกดแชร์เป็นกำลังใจด้วยนะครับ
ผู้เขียน : นิธิพันธ์ ZmyHome
บทความอื่น ๆ เกี่ยวกับ พื้นปูกระเบื้อง:
- ถ้าห้องไม่ได้ฉาก จะวางแนวกระเบื้องอย่างไร?
- กระเบื้องตัดขอบ ปูได้แนบสนิทขนาดไหน?
- ยาแนวนั้นสำคัญไฉน?
